ปกตินักกอล์ฟส่วนใหญ่จะถ่อมตัว ใครถามมักจะตอบว่าตีไม่ดี ทำท่าหงอยๆ อ้างปัญหาสุขภาพ เจ็บโน่นปวดนี่ ไม่ได้ซ้อม แก้ตัวต่างๆ นานา ต่อรองแต้มต่อกันชุลมุน แต่พอเดินขึ้นแท่น ที-ออฟ กลับเปลี่ยนเป็นคนละคน โรคภัยไข้เจ็บที่ว่า พลันหายเป็นปลิดทิ้ง เดินฉับๆ แค้ดดี้ตามไม่ทัน
แต่สำหรับผมของจริงครับ เป็นคนคงเส้นคงวา ตีทีละวาสองวา ตั้งแต่เริ่มหัดเล่นกอล์ฟจนถึงปัจจุบัน 10 กว่าปีแล้ว ฝีมือเหมือนเดิมทุกประการและนั่นเป็นสาเหตุให้ต้องไปเป็นลูกศิษย์ โปรนิด อาจารย์ดีแต่ลูกศิษย์ไม่รักดี พวกเด็กหลังห้องไม่เคยซ้อม เล่นๆ หยุดๆ ซ้ำร้ายหลังเลิกเรียนยังบังอาจชวนอาจารย์ดื่มเบียร์ซะอีก โปรนิด แก้ไขวงให้ แต่แก้นิสัยผมไม่ได้
เหมือนเดิมครับ เหมือนเดิม
เมื่อทราบว่า โปรนิด จะทำหนังสือ “ลดสกอร์แบบไม่ต้องฝึกซ้อม” จึงถูกใจมาก เพราะตรงกับนิสัยขี้เกียจซ้อมของผม อยากอ่านมากเผื่ออ่านจบแล้ว หากตีได้โฮลอินวัน จะได้ซื้อหนังสือแก้บนสักพันเล่ม โปรนิด มีอะไรที่ทำให้ผมต้องทึ่ง ตกตะลึงอยู่เสมอ จบนิเทศฯ จุฬาฯ ไปเรียนต่ออเมริกา ต้นแบบสื่อสารมวลชน แต่กลับไปเรียนทิชชิ่งโปร ซึ่งขณะนั้นอาชีพครูสอนกอล์ฟ ยังไม่เป็นที่นิยม แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จ ได้รับ การยอมรับในอาชีพได้เป็นอย่างดี
งานอดิเรก ถ่ายภาพ ทำหนังสือ “มหัศจรรย์ปลากัดไทย” ที่ผมเห็นแล้วต้องวิ่งไปสวนจตุจักรเพื่อซื้อปลากัดมาเลี้ยง
และนี่ก็อีกแล้วครับท่าน เขียนหนังสือสอนกอล์ฟ แนวใหม่ ที่สอนให้มีความเข้าใจมากกว่าการเลียนแบบ อ่านได้สนุกเหมือนนั่งคุยกัน ไม่เครียดแบบตำราเรียน
บางคนกล่าวว่า ผู้รู้จริงลึกซึ้ง สามารถอธิบายเรื่อง ยากๆ ให้เข้าใจได้ง่ายๆ เหมือนกับ โปรนิด เขียนให้อ่าน ในเล่มนี้
ไม่ได้โม้ อ่านเอาเองแล้วกัน ขอเตือนว่า ควรอ่านหลังอาหาร มิฉะนั้นท่านอาจลืมหิวจนเป็นลมได้
——————————————————
ปี 1990 ผมได้มีโอกาสเข้าอบรมหลักสูตร ยูเอส พีจีเอ ทิชชิ่ง แอนด์ โคชชิ่ง ซึ่งเป็นหลักสูตรสำหรับทิชชิ่งโปรและทัวร์ริ่งโปรที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเราไปด้วยกัน 3 คน มีผม โปรอาจิน โสภณ และ โปรนิด
ช่วงเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ที่โน่น โปรนิด ได้ช่วยดูแล ผมหลายเรื่อง โดยเฉพาะในเรื่องภาษาที่ผมไม่ค่อยถนัด มีอะไรไม่เข้าใจตรงไหน โปรนิด ก็จะตั้งใจอธิบายให้เข้าใจโดยละเอียดจนจบหลักสูตร
กลับมาเมืองไทย ผมเริ่มตระเวนแข่งแถวสิงคโปร์ และมาเลเซีย ส่วน โปรนิด ก็เปิดโรงเรียนสอนกอล์ฟและขอให้ผมไปช่วยงานบ้างเป็นครั้งคราว
เมื่อ โปรนิด ออกหนังสือเล่มแรกชื่อหนังสือ “แก้-วงแบบมือโปร” ผมรู้สึกทึ่งมากและมีความภูมิใจ ในความกล้าหาญของโปรนิด หนังสือเล่มนี้ถือได้ว่าเป็น ตำราที่ดีเล่มหนึ่ง ส่วนหนังสือ “ลดสกอร์แบบไม่ต้องฝึกซ้อม” นอกจากจะสอนให้คนตีกอล์ฟดีขึ้น ยังมีแง่คิดและมุมมอง เกี่ยวกับกีฬากอล์ฟและชีวิต ที่จะเป็นประโยชน์ต่อคนอ่าน ได้อย่างแน่นอน
——————————————————
โปรนิด คุณสิทธิศักดิ์ นันทเทิม เป็นคนหนึ่ง ที่มีบุญคุณกับผม
เป็นคนที่เติมเต็มความไม่คาดฝันของผมได้ประการหนึ่งที่ผมซาบซึ้งใจแม้จนบัดนี้
ลูกสาวของผมถูกผมเคี่ยวเข็ญให้เล่นกอล์ฟมาตั้ง แต่เด็ก ด้วยเชื่อว่าการเป็นนักกอล์ฟที่ดีเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างฐานคุณภาพชีวิตในระยะยาว
ที่ต้องใช้คำว่าเคี่ยวเข็ญ ก็เพราะเธอไม่มีใจกับกอล์ฟเลยและจำใจฝึกเพราะเกรงใจพ่อแม่ แถมผมยังอัด ให้เธอลงแข่งกอล์ฟเยาวชนตั้งแต่อยู่ไฟลท์ซี ร่วมรุ่นกับอารี-นารี ซง ที่ตอนนั้นยังใช้นามสกุลไทย วงศ์ลือเกียรติ อยู่เลย ลูกสาวผมไม่เคยชนะใครได้ เป็นลูสเซอร์ตลอด ทั้งฝีมือและจิตใจ
คุณกลาง คุณอภิชาต นันทเทิม พี่ชายของ โปรนิด รู้จักกับผมจากการทำหนังสือ เดอะ กอล์ฟสวิง ได้แนะนำให้ผมพาลูกสาวไปให้ โปรนิด จับวง ซึ่งตอนนั้น โปรนิด สอนที่สนามไดร์ฟแถวรามคำแหง
สิ่งที่ผมรู้สึกนับแต่ครั้งแรกที่พบ โปรนิด คือ โปรนิด มีใจจริงๆ มีใจกับลูกศิษย์ มีใจต่ออาชีพ มีความเป็นโปรผู้สอนอย่างมืออาชีพ ไม่เพียงแต่ลูกสาวผม แต่กับลูกศิษย์ทุกคน ที่โปรจะสอนอย่างใกล้ชิด ใส่ใจวันบายวัน เฝ้าดูการพัฒนา ต่อเนื่อง ไม่ใช่หมดชั่วโมงก็จบ ลูกสาวผมอาจจะพิเศษ กว่าคนอื่นนิดนึงก็ตรงที่ โปรนิด ไม่ยอมคิดค่าสอน มิใย ผมจะขอร้องอย่างไร โปรนิด บอกว่า ถือว่าลูกสาวผมเป็นนักเรียนทุนสกอลาร์ชิพคนแรกของ โปรนิด ก็แล้วกัน
ลูกสาวผมมีทักษะกอล์ฟมากขึ้น อาจจะเพราะเธอมีศรัทธาในตัว โปรนิด เลยศรัทธาในเกมกอล์ฟมากขึ้น ฝีมือก็ค่อยๆ ดีขึ้น ผมก็ให้เธอแข่งกอล์ฟเยาวชนตลอด ตั้งแต่ช่วงวัยเด็กจนเริ่มเป็นสาว เขยิบไฟลท์มาเรื่อย
ลูกสาวผมก็ไม่ชนะเหมือนเดิม จะสู้ อรนรินท์ สัตยาบรรพต ธิติยา พฤกษ์สถาพร ที่โตมาในรุ่นเดียวกัน ได้อย่างไร เดี๋ยวนี้สองคนนี้เป็นโปร แข่งในยุโรป ในสหรัฐฯ แล้ว ซึ่งผมเองก็ไม่ได้หวังอะไรถึงปานนั้น ด้วยรู้ว่าใจที่ ให้กับเกมกอล์ฟของลูกสาวผมมันคนละเบอร์กับเพื่อน นักกอล์ฟคนอื่นๆ ขอเพียงให้ลูกมีกิจกรรมกอล์ฟต่อเนื่อง ฝึกความทัฟของร่างกายและจิตใจไว้ก็โอเคแล้ว
อยู่มาวันหนึ่ง สมาคมกอล์ฟสตรีประกาศรับสมัคร คัดเลือกตัวนักกอล์ฟหญิงทีมชาติ ไปแข่งที่ฮ่องกง โปรนิด ก็บอกลูกสาวผมให้ไปสมัครคัดทีมชาติรายการนี้ เราสามคนพ่อแม่ลูกถึงกับตาเหลือก เพราะไม่เคยคิด ไม่สนใจ ด้วยรู้แก่ใจดีว่า ลูกสาวผมไม่เคยคิดจะเอาชนะ ใครถึงระดับนั้น เพราะไม่เคยชนะมาแต่ไหนแต่ไร เผลอๆ เพื่อนๆ กันนั่นแหละจะโห่ฮาป่า คิดยังไงไปคัดทีมชาติ แถมในช่วงนั้นผมเขียนคอลัมน์ใช้คมปากกากรีด คุณเรวดี ต.สุวรรณ นายกสมาคมกอล์ฟสตรีฯ ไว้เพียบ เห็นแค่นามสกุล ก็น่าจะไม่เอาแล้ว ซึ่งภายหลังผมก็กราบขอขมาท่าน สุภาพสตรีที่หัวใจใหญ่กว่าผมอีก
เราปฏิเสธว่าอย่าเลย แต่ โปรนิด พูดมาประโยคหนึ่ง
หมูกลม ทำเพื่อโปรหน่อย (หมูกลม ชื่อเล่นลูกสาวผม)
โปรนิด สอนมาสารพัด ลูกสาวผมตีกอล์ฟเป็นก็เพราะ โปรนิด เงินค่าสอนก็ไม่เคยคิด มีบุญคุณขนาดนี้ แล้วจะปฏิเสธได้อย่างไร
โปรนิด เชื่อในตัวลูกศิษย์มากกว่าผมผู้เป็นพ่อ เชื่อในตัวลูกสาวเสียอีก
ลูกสาวผมติดทีมชาติครับ เป็นคนที่สี่ ต่อจาก รุ่งทิวา อรนรินทร์ และ ธิติยา
เธอขับเคี่ยวกับมือกอล์ฟสตรีรุ่นเก๋า ผู้มีฉายา ปราบเด็กเยาวชนมาตลอด หมูกลม ชนะในสองหลุมสุดท้าย เป็นที่ฮือฮา เพราะมาแข่งคัดตัวครั้งแรกก็ได้ติดทีมชาติ เลย
จำได้ว่า โปรนิด ยิ้มกว้าง ตาเป็นประกายระยิบ เมื่อลูกสาวผมรีบไปรายงานที่สนามไดร์ฟ
เห็นมั้ยล่ะ หมูกลม ก็ทำได้เหมือนกัน
โปรนิด พูดสั้นๆ แค่นี้ แต่ผมก็สัมผัสได้กับความ ดีใจของโปร
อีกไม่กี่เดือนต่อมา ลูกสาวผมก็ติดทีมชาติถ้วย
ควีนสิริกิติ์อีกครั้ง ผ่านการคัดเลือกตัวอันแสนหฤโหด เจ็บร้าวไปทั้งตัว ทุลักทุเลแต่ก็ชนะอย่างขาวสะอาดในการดวลกับคู่แข่งในหลุมสุดท้าย
การได้ติดทีมชาติสองครั้ง เป็นเกียรติประวัติอย่างหนึ่งของลูกสาวผม เป็นความฝันที่ไม่คาดของผม ซึ่งถ้าไม่ใช่เพราะ โปรนิด ไหนเลยจะเป็นไปได้
ผมจึงยืนยันว่า โปรนิด เป็นผู้มีบุญคุณต่อลูกสาว และผมที่ซาบซึ้งมาจนถึงวันนี้
ความมีใจของ โปรนิด แสดงให้เห็นเสมอกับลูกศิษย์ กับเพื่อนพ้อง โดยเฉพาะกับกอล์ฟ กีฬาที่ โปรนิด ยึดเป็นอาชีพและสร้างความสำเร็จในฐานะโปรที่ดีที่สุดคน หนึ่งของเมืองไทย
หลายครั้งที่พบปะกัน ผมพบว่า โปรนิด เป็นคนคุยสนุก มีความทรงจำอันแจ่มใส มีอะไรดีๆ มากมายอยู่ในคลังสมอง โดยเฉพาะความสุขในวัยเยาว์และความผูกพันกับเกมกอล์ฟ มีสนามกอล์ฟสปอร์ตส์คลับ สนามกอล์ฟหัวหิน ฯลฯ เป็นฉากหลังให้เล่าเรื่องเสมอ
ผมว่าการเขียนเล่าเรื่องจากความทรงจำเป็นงานเขียนหนังสือที่ดีที่สุด เพราะมีทุกมิติสำหรับคนอ่าน สถานที่จริง ตัวละครจริง เรื่องเล่าทั้งเรื่องหฤหรรษ์ ทั้งเรื่องที่น่าจดจำที่ไม่ใช่เรื่องฝัน หรือเรื่องจินตนาการ
เมื่อ โปรนิด บอกว่า จะเอาเรื่องในความทรงจำมาเขียนเป็นพ็อคเก็ตบุ๊ค ผมจึงดีใจอย่างยิ่ง
ผมได้อ่านต้นฉบับ ก็พบว่าไม่ใช่แค่เรื่องสนุกเท่านั้น ทุกเรื่องยังแฝงข้อคิด เคล็ดวิถีแห่งการเป็นนักกอล์ฟ ที่ดีอีกด้วย โปรนิด ไม่ทิ้งวิญญาณแห่งความเป็นครู ที่มีความสุขกับการสอน
มีคำกล่าวว่า หนังสือเล่มใดที่ผู้อ่านบรรจงปิดเล่ม
หลังจากอ่านหน้าสุดท้ายด้วยรอยยิ้มและรู้สึกว่าความสุข ไหลริน ย่อมเป็นหนังสือที่ดี ที่อยากหยิบอ่านบ่อยๆ ชี้ชวนให้
คนอื่นอ่านด้วย
หนังสือที่อยู่ในมือท่านขณะนี้ มีคุณสมบัติครบถ้วน กับการเป็นหนังสือชั้นดี
ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เขียนในหนังสือของ โปรนิด ผู้มีใจในทุกสิ่งจริงๆ
——————————————————
หนังสือ “ลดสกอร์แบบไม่ต้องฝึกซ้อม” เปรียบ เหมือนคัมภีร์ที่ผมอยากให้มีไว้ใกล้ตัว เหมือนกับยาหม่องซึ่งเป็นยาสารพัดประโยชน์ กินก็ได้ทาก็ดี
ผมได้อ่านต้นฉบับที่ โปรนิด ส่งมาให้ ทีแรกกะว่า จะอ่านแบบฆ่าเวลาระหว่างบินไปเชียงใหม่ แต่ปรากฏว่าพอเปิดอ่านแล้ววางไม่ลง เพราะโปรนิด เขียนได้ดีกว่า ทุกครั้งที่ผ่านมา
มีการสอดแทรกอารมณ์ขัน เกร็ดเรื่องราวและวิธีคิด วิธีเล่นกอล์ฟแบบคนไม่มีเวลาหรือขี้เกียจซ้อมจะได้
ประโยชน์อย่างมากมาย
โปรนิด เคยบอกผมว่าการเล่นกอล์ฟควรเล่นแบบ ง่ายๆ ผ่อนคลายและให้สนุกกับเกมเพราะกีฬากอล์ฟไม่ใช่การผ่าตัดสมอง หรือการยิงจรวด!
——————————————————
ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ของ โปรนิด แล้ว รู้สึกชื่นชม ว่าสมแล้วที่จบนิเทศศาสตร์ เพราะสิ่งที่ โปรนิด เขียน
นอกจากจะให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการเล่นกอล์ฟ จิตวิทยา ประวัติศาสตร์ กฎข้อบังคับ ฯลฯ ลีลาการเขียน
ยังสุดยอด เขียนได้น่าอ่าน สนุกสนาน เพลิดเพลิน ไม่เครียด เหมือนกับนั่งฟัง โปรนิด เล่าให้ฟังโดยตรงบอกให้ทราบถึงการเป็นครูสอนกอล์ฟอารมณ์ดี เป็นคน ช่างจดช่างจำและหาเวลาว่างทำในสิ่งที่ยาก นั่นคือ การเขียนหนังสือ ซึ่งบางคนพูดเก่ง แต่พูดแล้วหายไปเลย คนที่ไม่ได้ฟังก็จะไม่รู้ แต่ โปรนิด นำมากลั่นกรองเขียนให้คนอื่นอ่าน บันทึกไว้เป็นตำนานได้อย่างยอดเยี่ยม
ผมแน่ใจว่าเรื่องราวดีๆ ยังมีอีกมากมายไม่หมดแค่นี้แน่นอน เป็นกำลังใจให้เขียนต่อไปอีกเรื่อยๆ เป็นเล่มที่ 2 เล่มที่ 3 นะครับ
——————————————————
ตลอดชีวิตโปรสอนกอล์ฟ ผมได้ทำหน้าที่ส่วนหนึ่งด้วยการค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟในทุกแง่มุมจากหลายแหล่งข้อมูลและได้นำข้อมูลเหล่านั้นมาแยกให้เป็นหมวดหมู่ จัดทำให้เป็นระบบและเป็นขั้นตอนเพื่อให้นักเรียนได้เข้าใจในบทเรียนและสามารถปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ ผมได้มีโอกาสสอนบุคคลต่างอายุ ตั้งแต่เด็ก 7 ขวบ ยันนักกอล์ฟอาวุโสวัย75 ปี สอนบุคคลต่างสถานะและอาชีพ อาทิ นักกอล์ฟต่างชาติ ดาวประจำสภา ดาราชื่อดัง ทหาร ตำรวจ เสื้อเหลือง เสื้อแดง เยาวชน ทิชชิ่งโปร ทัวร์ริ่งโปร ฯลฯ ซึ่งทำให้ผมได้สัมผัสกับเรื่องราวหลายหลากมากมาย
สำหรับผมแล้ว นี่คือ ประสบการณ์ชีวิตอันน่าทึ่ง
และด้วยความที่เป็นคนช่างจดบันทึก จึงได้จดข้อมูลสำคัญและเหตุการณ์ที่น่าจดจำไว้ตั้งแต่วันแรกของการทำงานจวบจนปัจจุบัน
หนังสือที่ท่านกำลังถืออยู่ในมือเป็นการรวบรวมเรื่องโปรดที่ได้เกิดขึ้นระหว่างเวลากว่า 20 ปี ของอาชีพโปรสอนกอล์ฟมาเล่าสู่กันฟังและหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนนักกอล์ฟได้พอสมควร
——————————————————